อยากรู้ว่าเเบตเตอรี่รถยนต์ เราจะเน้นไปที่ ค่าเเอมป์ หรือ ค่า CCA

Last updated: 24 พ.ค. 2565  |  936 จำนวนผู้เข้าชม  | 

วัดค่าประสิทธิภาพเเบรถยนต์ก่อนออกเดือนทาง

  ประสิทธิภาพการใช้งานเเบตเตอรี่ การบำรุงรักษาให้ใช้งานได้นานที่สุดพอมีเเนะนำวิธีง่ายๆไหม

   เเบตเตอรี่รถยนต์ที่ติดมากับรถยนต์ป้ายเเดงนั้นโดยการใช้งานทั่วไปก็อยู่ราวๆ 2-3 ปีก็เริ่มมีการสตาร์ทช้าลงโดยเห็นได้ชัด เเต่ก็ยังสามารถใช้งานได้ต่อเนื่องอยู่เเต่ถือว่าเป็นสัญญาณเเรกในการบ่งใช้ ว่าเเบตรถยนต์เริ่มชาร์จไฟไม่เข้าหรือเก็บไฟไม่ค่อยได้เต็มประสิทธิภาพเเล้วนั้นเอง


  เเบตเตอรี่รถยนต์โดยที่คนเข้าใจเบื่องต้นก็เลือกกันที่ขนาด เเอมป์ ขนาดกระเเสที่สินค้าเเต่ละยี่ห้อได้ผลิตออกมาให้ผู้ใช้งานได้เลือกตามความสมกับการใช้งาน

 ของรถยนต์เเละการใช้งานต่อพ่วงของรถยนต์ คันนั้นๆ ซึ่งการใช้งานของรถยนต์เเบบพื็นฐานเเบต ที่ติดรถป้ายเเดงมาก็เพียงพอเเล้ว เเต่ด้วยอุปกรณ์ต่อพ่วงการใช้งานที่มีการตกเเต่งเพิ่มเติม อาทิ เช่น เครื่องเสียง หลอดสปอร์ตไลท์ ที่ชาร์จเเบตต่อพ่วงอุปกรณ์ ชุดเเปลงไฟเป็นไฟบ้านอินเวอเตอร์ ไฟกระพริบ ต่างๆ จึงต้องมีการที่ต้องเพิ่มขนาดความจุกระเเสไฟให้สูงขึ้น เช่นกัน ก็อาจเพิ่มขึ้น1 ขั้น จากเดิมเเบต 80A ก็เป็นเเบต 100A ก็สามารถทำได้ราคาต่อเเบตก็เพิ่มขึ้น

 

  การใช้งานเเบตรถยนต์นั้น องค์ประกอบหลัก จุดเด่นหลักของเเบตรถยนต์ก็คือ การใช้กระเเสไฟที่สูง ในเวลาอันสั้นขณะสตาร์ทรถยนต์ ปัจจุสำคัญที่ทำให้สตาร์ทรถยนต์ได้นั้นก็คือ ค่า CCA เข้าใจง่ายๆ คือ ขณะเวลา 30 วินาที ที่สามารถจ่ายเเสไฟฟ้าได้สูงสุด รถ.คลังเเบตเตอรี่เเหลมฉบัง ขอเเนะนำการเลือกเเบตเตอรี่การตัดสินใจก็ดูที่การใช้งานเป็นหลักก็สามารถช่วยให้เราประหยัดเงินในการเปลี่ยนเเบตรถยนต์ได้

 รถยนต์ใช้งานปกติ ไม่มีอุปกรณ์ที่ต่อไฟเพิ่มเติมก็ เน้นเลือกไปที่ค่า CCA ไม่เน้นขนาดกระะเส เเอมป์A

 รถยนต์ใช้งานมีอุกรณ์ต่อพ่วงต่างๆ เช่นเครื่องเสียง ก็ต้องเพิ่มขนาด ขนาดกระะเส เเอมป์A ให้สูงขึ้น เเละ ค่า CCA 

 

Powered by MakeWebEasy.com